Picture of the author
autobacsautobacs
autobacs

อย่าปล่อยให้แอร์รั่ว ดูวิธีแก้ปัญหาแอร์รถยนต์กัน


วันที่เผยแพร่: 14 พ.ค. 2568

แชร์ไปยัง

Key Takeaway

  • ตู้แอร์รถยนต์คือ ส่วนที่ทำหน้าที่สร้างความเย็นระหว่างขับขี่ ช่วยให้การขับรถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ร้อนหรืออึดอัดเกินไป

  • สัญญาณตู้แอร์รถยนต์รั่วนั้น สามารถสังเกตได้จากอาการ เช่น รู้สึกว่ารถยนต์ไม่เย็นเหมือนก่อน มีเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากด้านในตู้แอร์รถยนต์ และเกิดน้ำหยดภายในห้องโดยสาร เป็นต้น

  • สาเหตุของแอร์รถยนต์รั่วเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น อายุการใช้งาน แผงระบายอากาศสึกหรอ ล้างแอร์บ่อยเกินไป และใช้น้ำยาแอร์ผิดประเภท เป็นต้น 

  • การรักษาความสะอาดตู้แอร์รถยนต์ สามารถทำได้ด้วยตนเองง่ายๆ คือ หมั่นรักษาความสะอาดภายในห้องแอร์ ล้างแอร์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เป็นต้น



อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่มีอากาศร้อน ทำให้แอร์รถยนต์คือหนึ่งในสิ่งจำเป็นต่อการขับขี่ แต่ทั้งนี้แอร์รถยนต์ก็ไม่ต่างจากอะไหล่รถยนต์ส่วนอื่นๆ ที่สามารถเกิดความบกพร่องเสียหายได้ โดยเฉพาะปัญหาตู้แอร์รถยนต์รั่ว ที่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่อาจทำให้รถยนต์ไม่สามารถสร้างความเย็นได้ดี และอาจส่งผลกระทบไปสู่อะไหล่รถยนต์ส่วนอื่นๆ ตามมาได้ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการแก้ปัญหาแอร์รถยนต์รั่ว และการดูแลให้แอร์รถยนต์สามารถใช้งานได้นานๆ มาฝากกัน

ทำความรู้จักกับตู้แอร์รถยนต์

แอร์รถยนต์คือ สิ่งที่ทำหน้าที่สร้างความเย็นให้กับห้องขับขี่และโดยสารของรถยนต์ ในส่วนนี้จะพาทุกคนไปรู้จักถึงความสำคัญของแอร์รถยนต์ และการทำงานว่าทำงานอย่างไร ภายในประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ดังนี้

ความสำคัญของตู้แอร์

ตู้แอร์รถยนต์นั้น อาจไม่ได้เป็นชิ้นส่วนที่มีความสำคัญต่อการขับขี่รถยนต์มากนัก แต่สำหรับการขับรถในประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อนนั้น แอร์รถยนต์ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะตู้แอร์รถยนต์จะช่วยทำหน้าที่สร้างความเย็นระหว่างขับขี่ ช่วยให้การขับรถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ร้อนหรืออึดอัดเกินไป ดังนั้นปัญหาแอร์รถยนต์รั่ว จึงถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ของคนใช้รถในประเทศไทย

ตู้แอร์รถยนต์ทำงานอย่างไร

รูปแบบการสร้างความเย็นของตู้แอร์รถยนต์นั้น จะเป็นการทำหน้าที่ในการพาความร้อนไปสู่สารเพื่อทำความเย็น จนเกิดเป็นไอก่อนที่จะสูบมายังบริเวณคอมเพรสเซอร์ จากนั้นจึงเปลี่ยนไอดังกล่าวกลับมาเป็นของเหลวอีกครั้ง ซึ่งปัญหาตู้แอร์รถยนต์รั่วนั้น มักเกิดจากการใช้งานที่ยาวนาน จนเกิดอาการน้ำยาแอร์รั่ว รถยนต์ไม่สามารถทำความเย็นได้เต็มที่เหมือนที่เคย รวมถึงอาจเป็นสัญญาณของการเสื่อมสภาพจากอะไหล่ส่วนอื่นๆ

ภายในตู้แอร์มีอะไรบ้าง

ภายในตู้แอร์รถยนต์หนึ่งคันนั้น จะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่ต่างๆ โดยจะมีดังนี้

  • คอมเพรสเซอร์ (Compressor) เป็นชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่ดูดและอัดน้ำยาแอร์ เพื่อสร้างระดับความดันให้สูงมากยิ่งขึ้น โดยน้ำยาแอร์จะทำหน้าที่หมุนเวียนจากการทำงานเครื่องยนต์ผ่านสายพาน 

  • คอนเดนเซอร​์ (Condenser) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ระบายความร้อนของน้ำยาแอร์จากตัวคอมเพรสเซอร์ 

  • ดรายเออร์ (Receiver Drier) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ในการดูดความชื้น กรองสิ่งสกปรกในน้ำยาแอร์ และกักเก็บน้ำยาแอร์ ให้มีปริมาณเพียงพอต่อการใช้งาน

  • คอยล์เย็น (Evaporator) เป็นส่วนที่อยู่ภายในตู้แอร์ ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังหน้าปัดห้องโดยสาร ทำหน้าที่ช่วยเปลี่ยนอุณหภูมิร้อนให้เป็นความเย็น 

  • สารทำความเย็น (Refrigerant) หรือเรียกอีกอย่างว่า “น้ำยาแอร์” เป็นตัวกลางที่ทำหน้าที่สร้างความเย็นให้กับระบบคอยล์เย็น 

  • วาล์วลดแรงดัน (Expansion Valve) เป็นอีกหนึ่งส่วนที่อยู่ด้านหลังหน้าปัดรถยนต์ มีหน้าที่ในการช่วยปรับความดันของน้ำยาแอร์ให้สามารถดูดความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • พัดลมแอร์ (Blower Fan) เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนด้านในของตู้แอร์รถยนต์ มีหน้าที่ในการช่วยดูดอากาศร้อนจากภายในห้องโดยสาร เพื่อระบายออกที่คอยล์เย็น แล้วเปลี่ยนให้เป็นลมเย็นออกมาที่ช่องแอร์

  • ตัวควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมระดับอุณหภูมิ ช่วยให้สามารถปรับค่าความเย็นได้ ทั้งนี้อุณหภูมิของรถจะคงที่หรือสร้างความเย็นได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของแอร์

สัญญาณเตือนตู้แอร์รถยนต์รั่ว สังเกตอย่างไร

หากรู้สึกว่าแอร์รถยนต์ไม่สามารถทำความเย็นได้อย่างเต็มที่เหมือนเคย หรือมีอาการเสี่ยงต่อตู้แอร์รถยนต์รั่ว ให้สามารถสังเกตว่าตู้แอร์รั่ว อาการจะมีดังนี้ 

  • รู้สึกได้ทันทีว่ารถยนต์ไม่เย็นเหมือนก่อน

  • มีเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากด้านในตู้แอร์รถยนต์

  • เมื่อจอดรถนิ่งๆ แอร์รถยนต์จะไม่เย็น แต่หากเริ่มเคลื่อนที่จึงจะกลับมามีอุณหภูมิที่เย็นอีกครั้ง

  • เกิดน้ำหยดภายในห้องโดยสาร ซึ่งอาจเกิดจากอาการน้ำยาแอร์รั่ว รถยนต์เกิดการสะสมฝุ่นจนเกิดปัญหาท่อแอร์ตัน

  • มีกลิ่นเหม็นออกมาจากบริเวณช่องแอร์รถยนต์ 

แอร์รถยนต์รั่วมีสาเหตุมาจากอะไร

ปัญหาตู้แอร์รถยนต์รั่วนั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่อายุการใช้งาน การสึกหรอ ไปจนถึงสิ่งสกปรกที่เข้าไปอุดตันแอร์รถยนต์ ซึ่งแต่ละสาเหตุมีรายละเอียดดังนี้

อายุการใช้งานของแอร์

อายุการใช้งานคืออีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้ตู้แอร์รั่ว รถยนต์ที่ใช้งานหนัก ทำให้ใช้แอร์หนักขึ้นตามไปด้วย จนทำให้เกิดคราบสิ่งสกปรกต่างๆ เข้าไปจับตัวที่บริเวณแผง หากปล่อยทิ้งไว้นานสิ่งสกปรกเหล่านี้จะเก็บความชื้นจนเกิดเป็นสนิมอะลูมิเนียม ทำให้กัดกร่อนผิวให้บางลง จนแรงดันภายในสามารถทะลุผ่านได้

แผงระบายอากาศสึกหรอ

ตู้แอร์รถยนต์รั่วเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ โดยส่วนใหญ่นั้นมักเกิดจากแผงอากาศเริ่มสึกหรอ วิธีการสังเกตนั้นให้ดูจากรอยรั่วหรือคราบสกปรกที่น้ำยาแอร์ ที่พอสะสมเป็นเวลานานก็ทำให้แผงระบายเกิดการสึกหรอได้

รอยต่อท่อแอร์

รอยต่อท่อแอร์ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ตู้แอร์รถยนต์รั่ว เนื่องจากรอยต่อท่อแอร์ไม่สนิทจนทำให้น้ำยาแอร์รั่วซึม หากพบอาการดังกล่าวควรเปลี่ยนท่อแอร์ทันที เพราะยิ่งปล่อยให้น้ำยาแอร์รั่วไหลเป็นเวลานาน อาจทำให้เป็นอันตรายต่อตัวผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้

ความถี่ในการล้างตู้แอร์

การล้างตู้แอร์รถยนต์บ่อยจนเกินไป ก็อาจนำพามาสู่ปัญหาตู้แอร์รถยนต์รั่วได้เช่นกัน เนื่องจากน้ำยาแอร์จะมีส่วนผสมที่มีความเป็นกรด อาจเข้าไปทำร้ายตู้แอร์ให้เกิดอาการรั่วซึมหรือเสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้

การใช้น้ำยาแอร์ที่คุณภาพต่ำหรือผิดประเภท

การใช้น้ำยาแอร์ที่ไม่ได้คุณภาพหรือใช้แอร์รถยนต์ที่ผิดประเภท อาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้แอร์ไม่เย็น เพราะน้ำยาแอร์ที่ไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐาน จะทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบแอร์รถยนต์ จนทำให้ประสิทธิภาพการทำความเย็นลดลง

ยืดอายุการใช้งานตู้แอร์อย่างไรให้ทำความเย็นได้นาน

สำหรับใครที่ไม่อยากให้ตู้แอร์รถยนต์รั่ว และยืดอายุการใช้งานให้สามารถสร้างความเย็นไปนานๆ สามารถทำการดูแลได้ง่ายๆ ตามวิธีการดังนี้

  • หมั่นตรวจเช็กระบบแอร์ด้วยตนเอง เช่น สังเกตว่าแอร์ยังทำความเย็นปกติหรือไม่ หรือมีกลิ่น มีเสียงอะไรที่ผิดปกติมาจากแอร์บ้างหรือไม่ เป็นต้น

  • หมั่นรักษาความสะอาดภายในห้องแอร์และห้องโดยสารเป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้เศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเข้าไปเกาะที่ระบบการทำงานของแอร์

  • ล้างแอร์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพราะการล้างแอร์แบบถอดแอร์โดยช่างผู้ชำนาญนั้น จะช่วยให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด 

  • ก่อนดับเครื่องยนต์แต่ละครั้ง ควรทำการปิดระบบ AC เพื่อไล่น้ำออกจากตู้แอร์

  • หากพบว่าแอร์รถยนต์ไม่ค่อยเย็นหรือทำความเย็นได้ไม่เท่าเดิม ควรรีบดำเนินการให้ช่างตรวจสอบที่ศูนย์บริการรถยนต์ทันที เพราะสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งน้ำยาแอร์หมดหรือแอร์เกิดการเสื่อมสภาพ

  • หลังจากที่ดับเครื่องยนต์แล้ว พบว่าไม่มีน้ำหยดลงมาจากใต้ท้องรถ อาจเกิดจากท่อน้ำทิ้งเกิดการอุดตัน ควรรีบทำความสะอาด เพราะถ้าทิ้งไว้อาจทำให้ตู้แอร์รถยนต์รั่วซึมได้

สรุป

ปัญหาตู้แอร์รถยนต์รั่วเป็นสิ่งที่คนใช้รถควรให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะไม่สามารถสร้างความเย็นได้เท่าเดิมแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ ซึ่งอาการตู้แอร์รถยนต์รั่วนั้นก็มีทั้งเสียงแปลกๆ ภายในแอร์ หรือมีกลิ่นเหม็นมาจากแอร์ โดยสาเหตุนั้นอาจเกิดได้จากสิ่งสกปรกที่เข้าไปอุดตัน หรือการใช้น้ำยาแอร์ที่ผิดประเภท เป็นต้น 

ทั้งนี้การดูแลแอร์สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงหมั่นรักษาความสะอาดแอร์ ตรวจเช็กสภาพแอร์รถยนต์เป็นประจำ และอย่าลืมเลือกน้ำยาแอร์ที่ได้คุณภาพที่ Autobacs ที่เป็นศูนย์รวมด้านอะไหล่รถยนต์ และบริการต่างๆ สำหรับคนรักรถ

autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autobacsสาระน่ารู้อื่นๆ

E-mail

Call Center

autobacs-contact

LINE Official

autobacs-line

Messenger

autobacs-messenger
to-top