Picture of the author
autobacsautobacs
autobacs

การพวงมาลัยสั่นเป็นอย่างไร เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง


วันที่เผยแพร่: 30 เม.ย. 2568

แชร์ไปยัง

อาการพวงมาลัยสั่นเป็นอย่างไร เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง อันตรายหรือไม่ 

พวงมาลัยเป็นส่วนสำคัญของรถยนต์ ที่ช่วยควบคุมการเลี้ยว หรือเปลี่ยนทิศทางของรถได้ แต่บางครั้งอาจพบว่าพวงมาลัยมีอาการสั่น และสะเทือน โดยอาการนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ ควรสังเกตอาการ เพื่อให้นำรถไปซ่อมได้ตรงจุด และเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย แล้วพวงมาลัยสั่นเกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่นั้น Autobacs มีคำตอบมาให้คุณแล้วที่นี่! 

อาการพวงมาลัยสั่นคืออะไร 

พวงมาลัยรถยนต์เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมการเลี้ยว หรือเปลี่ยนทิศทางของรถได้ โดยปกติแล้วพวงมาลัยจะต้องนิ่งและเบา แต่บางครั้งกลับมีอาหารพวงมาลัยสั่น หรือต้านมือของผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นสัญญาณแสดงว่ารถมีสิ่งผิดปกติ  โดยอาการพวงมาลัยสั่น อาจเกิดขึ้นได้ทั้งขณะที่รถวิ่งอยู่ในความเร็วคงที่ หรือขณะที่เหยียบเบรก ที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งที่ล้อหน้าและล้อหลัง ซึ่งหากพบอาการเหล่านี้ควรนำรถไปตรวจสภาพรถทันทีเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยของคุณ 

พวงมาลัยมีกี่ประเภท 

พวงมาลัยรถยนต์มีการปรับปรุง และพัฒนาตลอดเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ จากเดิมที่เป็นพวงมาลัยธรรมดา ไม่มีฟังก์ชันใดๆ เสริม แต่ปัจจุบันมีพวงมาลัยที่มีฟังก์ชัน และการออกแบบที่หลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก คือ 

1. พวงมาลัยเพาเวอร์  

พวงมาลัยเพาเวอร์เป็นพวงมาลัยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน เพราะมีน้ำหนักเบา และสามารถตอบสนองการเลี้ยวได้ดี ไม่เกิดปัญหาพวงมาลัยสั่นได้ง่าย ซึ่งพวงมาลัยเพาเวอร์สามารถใช้ได้กับรถเก๋ง หรือรถที่ใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังเป็นพวงมาลัยที่ช่วยให้คุณควบคุมรถได้ง่าย และไม่เหนื่อยมืออีกด้วย ซึ่งพวงมาลัยเพาเวอร์นั้นสามารถแบ่งย่อยได้อีก 3 แบบ ดังนี้ 

พวงมาลัยรถเพาเวอร์แบบไฮดรอลิก

พวงมาลัยรถเพาเวอร์แบบไฮดรอลิก คือระบบที่ใช้น้ำมันไฮดรอลิกเป็นตัวถ่ายทอดแรงดันจากปั๊มไฮดรอลิกไปยังกระปุก ซึ่งปั๊มไฮดรอลิกจะเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์ผ่านสายพานทำให้พวงมาลัยเบาลงเมื่อเลี้ยวรถ นอกจากนี้ระบบนี้ยังมีความแม่นยำ และความเร็วในการตอบสนองสูง ช่วยให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจในการเข้าโค้งอีกด้วย 

พวงมาลัยไฟฟ้า หรือ EPS 

พวงมาลัยไฟฟ้า หรือ EPS คือระบบบังคับเลี้ยวที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยลดแรงดันของพวงมาลัย โดยมีเซนเซอร์ตรวจสอบการหมุนพวงมาลัย และส่งสัญญาณไปยังกล่องควบคุม ซึ่งจะสั่งให้มอเตอร์ทำงานตามความต้องการของผู้ขับขี่ ทำให้พวงมาลัยเบามือและควบคุมรถได้ง่ายขึ้น  

พวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฮดรอลิกร่วมกับไฟฟ้า

พวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฮดรอลิกร่วมกับไฟฟ้า คือระบบที่ผสมผสานระบบไฟฟ้า และระบบไฮดรอลิกเข้าด้วยกัน โดยระบบนี้จะใช้น้ำมันไฮดรอลิกเป็นตัวถ่ายทอดแรงดันจากปั๊มไฮดรอลิกไปยังกระปุก หรือแรคพวงมาลัย ซึ่งปั๊มไฮดรอลิกจะเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์ผ่านสายพานทำให้พวงมาลัยเบาลงเมื่อเลี้ยวรถ นอกจากนี้ระบบนี้ยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อปรับความหนักเบาของพวงมาลัยตามความเร็วของรถยนต์ และยังสามารถประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าระบบไฮดรอลิกเดียวอีกด้วย 

2. พวงมาลัยแรคแอนด์พีเนียน  

พวงมาลัยแรคแอนด์พีเนียน คือระบบบังคับเลี้ยวที่ใช้เฟืองสะพาน และเฟืองหมุนเล็กๆ ทำงานร่วมกันซึ่งสามารถติดตั้งได้ง่ายๆ ด้วยพื้นที่ไม่มากนัก ซึ่งส่งผลให้พวงมาลัยสามารถตอบสนองการเลี้ยวได้รวดเร็ว ไม่พบการพวงมาลัยสั่น ประหยัดต้นทุน จึงทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเร็วนั่นเอง 

3. พวงมาลัยบอลล์แอนด์นัท  

พวงมาลัยบอลล์แอนด์นัท หรือแบบกระปุก เป็นพวงมาลัยที่ได้รับความนิยมในรถบรรทุก และรถกระบะบางรุ่น หรือแม้แต่ในรถโดยสารขนาดใหญ่ เพราะพวงมาลัยชนิดนี้จะมีวาล์วที่ควบคุมการไหลของน้ำมันไฮดรอลิก และปรับการเลี้ยวตามแรงหมุนของพวงมาลัย มีความฝืดระหว่างยางกับถนนด้วยการใช้ทอร์ชันบาร์สปริงเป็นตัวบิด ทำให้ไม่มีอาการพวงมาลัยสั่น และสะเทือน มีความทนทานสูงกว่าแบบแรคแอนด์พีเนียน 

อาการพวงมาลัยสั่นเกิดจากอะไร 

พวงมาลัยรถยนต์ คืออุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้คุณควบคุมการเลี้ยวของรถได้ง่ายขึ้น แต่หากคุณขับรถแล้วพบว่าพวงมาลัยสั่น ไม่ว่าจะเป็นขณะที่เหยียบเบรกหรือไม่ นั่นหมายความว่ารถของคุณมีปัญหาที่ต้องแก้ไขด่วน เพราะอาการพวงมาลัยสั่นสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ แต่จะมีสาเหตุจากอะไรได้บ้าง Autobacs มีคำตอบมาฝากกัน ดังนี้ 

ศูนย์ถ่วงล้อไม่สมดุล 

สาเหตุแรกของการที่พวงมาลัยสั่น คือ การตั้งศูนย์ล้อไม่สมดุลซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น การใช้งานยางเกินอายุ หรือการตกหลุมกระแทกอย่างหนัก ซึ่งการตั้งศูนย์ล้อที่ไม่สมดุลจะทำให้ล้อไม่วิ่งตรง และเกิดแรงเหวี่ยงที่ส่งผลต่อพวงมาลัยรถยนต์ อาการนี้จะเห็นได้ชัดเมื่อคุณขับรถเร่งเครื่อง หรือขับรถด้วยความเร็วสูง จะสังเกตเห็นได้ว่าพวงมาลัยสั่น และหนักขึ้น ทำให้ควบคุมรถยากขึ้น 

ยางรถยนต์เสื่อมสภาพ 

หากยางรถยนต์เสื่อมสภาพจนบิดเบี้ยวผิดรูป หรือผิวยางขรุขระ จะทำให้รถยนต์วิ่งไม่สม่ำเสมอ และเกิดอาการล้อสะดุด นอกจากนี้อาการนี้ยังส่งผลให้พวงมาลัยรถยนต์สั่นได้อีกด้วย โดยเฉพาะเมื่อขับรถด้วยความเร็วสูง อาการพวงมาลัยสั่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้คุณขับรถไม่สะดวกสบาย แต่ยังเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของคุณ และผู้โดยสารอีกด้วย 

ช่วงล่างมีปัญหา 

ช่วงล่างรถยนต์ คือส่วนที่ช่วยรักษาความสมดุลของรถยนต์ หากมีชิ้นส่วนใดที่หลวม ไม่ว่าจะเป็นคันชัก เพลาขับ หรือลูกหมาก มีโอกาสสูงที่จะส่งผลให้เกิดอาการพวงมาลัยสั่น แต่สามารถป้องกันได้โดยการตรวจสอบช่วงล่างรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ และปรับแน่นชิ้นส่วนที่หลวมให้เหมาะสม 

ปลอกกันสั่นไม่พอดี 

เมื่อเปลี่ยนล้อใหม่ อาจทำให้ดุมล้อไม่ตรงกับรูกลางล้อ ทำให้ล้อเหวี่ยง และพวงมาลัยสั่น ซึ่งวิธีแก้ไข คือการใช้ปลอกกันสั่น ซึ่งเป็นวงแหวนที่ประคองล้อกับดุมล้อให้เป็นศูนย์เดียวกัน และควรเลือกปลอกกันสั่นที่มีคุณภาพดี ไม่เป็นสนิม ไม่เกาะติด ไม่สร้างริ้วรอย ไม่เสียรูปทรง เพราะการใช้ปลอกกันสั่นที่ดี จะช่วยลดอาการสั่นของล้อ ยืดอายุช่วงล่าง และยางรถ อีกทั้งไม่ทำให้พวงมาลัยสั่นอีกด้วย 

ลูกปืนดุมล้อเสียหาย 

ลูกปืนดุมล้อเสียหายจากการลุยน้ำ ส่งผลให้พวงมาลัยสั่นได้ เพราะลูกปืนดุมล้อคือชิ้นส่วนที่ช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างแกนล้อ และดุมล้อ หากลูกปืนดุมล้อเสื่อมสภาพจากการลุยน้ำ จะทำให้ล้อหมุนไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เกิดอาการพวงมาลัยสั่น และสะเทือนได้ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเลี้ยวรถเท่านั้น 

จานเบรกคดหรือไม่ปกติ 

จานเบรกคดเป็นปัญหาที่เกิดจากการขยายตัว และหดตัวของจานเบรกอย่างรวดเร็ว เมื่อรถยนต์เหยียบเบรกบ่อยๆ หรือขับผ่านน้ำ จานเบรกที่คดจะทำให้พวงมาลัยสั่นเมื่อเหยียบเบรก และลดประสิทธิภาพของระบบเบรกและยังส่งผลมาถึงพวงมาลัยทำให้เกิดอาการพวงมาลัยสั่น และสะเทือนได้อีกด้วย 

เพลาขับเริ่มมีปัญหา 

เพลาขับคือชิ้นส่วนที่ส่งกำลังจากเกียร์ไปยังล้อหน้า หากเพลาขับชำรุด เช่น ยางหุ้มเพลาขาด หรือจาระบีหมดสภาพจะทำให้รถยนต์เกิดสั่นสะเทือนขณะที่เร่งความเร็วได้ ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการพวงมาลัยสั่น และสะเทือนได้เช่นกัน ดังนั้นคุณควรเช็กสภาพเพลาขับอย่างสม่ำเสมอ และเปลี่ยนเพลาขับใหม่เมื่อมีอาการผิดปกติทันที 

ล้อแมกซ์ผิดรูปทรง 

ล้อแม็กผิดรูปเกิดจากการกระแทกแรงๆ กับฟุตบาท หลุม หรืออื่นๆ ที่ทำให้ล้อไม่เป็นรูปทรงกลม หรือเปลี่ยนรูป และไม่สมดุล การใช้ล้อแม็กผิดรูปจะทำให้รถยนต์สั่น ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลให้พวงมาลัยสั่น และสะเทือนจากที่ล้อแม็กผิดรูปเท่านั้น แต่หากยางรถเสียหายมาก อาจทำให้ยางระเบิด ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อคนขับ และผู้โดยสารได้เลยทีเดียว 

อาการอื่นที่อาจเกิดขึ้นกับพวงมาลัย 

นอกจากพวงมาลัยสั่นที่เกิดจากสาเหตุต่างๆ ที่ Autobacs ได้นำมาฝากกันข้างต้นแล้ว ผู้ขับขี่ยังควรสังเกตอาการอื่นของพวงมาลัยด้วย เผื่อมีปัญหาอื่นๆ ในรถยนต์จะได้รับการตรวจเช็ก และซ่อมแซมได้ทันเวลา โดยอาการอื่นๆ ที่สามารถเกิดขึ้นกับพวงมาลัยมีดังนี้ 

พวงมาลัยไม่ตรงตอนขับรถ 

อีกอาการของพวงมาลัยที่ควรสังเกต นอกจากพวงมาลัยสั่นแล้ว ให้สังเกตว่าเมื่อปล่อยพวงมาลัยแล้วตอนที่รถวิ่งเป็นเส้นตรงบนถนนเรียบโดยไม่มีความเร็วแล้ว รถมีอาการเลี้ยวไปทางซ้าย หรือขวาเองหรือไม่ หากมีนั่นหมายถึงพวงมาลัยไม่ตรงกับล้อ ศูนย์ล้อมีปัญหา ควรให้ช่างมืออาชีพทำการตรวจเช็ก และปรับศูนย์ล้อพวงมาลัยให้ถูกต้องทันที แต่ควรทดสอบปัญหานี้ในพื้นที่ที่ไม่มีรถเพื่อความปลอดภัย 

พวงมาลัยไม่ตรงตอนจอดรถ 

หากคุณจอดรถแล้วพบว่า ล้อหน้าตรงแต่โลโก้บนพวงมาลัยเอียงอาจแสดงว่าศูนย์ล้อผิดปกติ หรือช่วงล่างมีการหลวมของลูกหมาก ดังนั้นจึงควรตรวจสอบ ปรับศูนย์ล้อให้เหมาะสม และเปลี่ยนพวงมาลัยใหม่ เพราะหากรถมีการใช้งานมานานอาจมีอาการสึกหรอของแกนพวงมาลัย หรือกระปุกพวงมาลัยหลวม ซึ่งอาจทำให้พวงมาลัยสั่น หรือไม่ตอบสนองได้  

 พวงมาลัยหนัก 

นอกจากอาการพวงมาลัยสั่นแล้ว พวงมาลัยหนักก็ทำให้การขับรถนั้นลำบากเช่นกัน โดยสาเหตุหลักของพวงมาลัยหนักเกิดจากยางที่เสื่อมสภาพ รั่ว หรือปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์ที่มีการรั่วซึมหรือชำรุด 

พวงมาลัยสั่น อันตรายแค่ไหน 

อาการพวงมาลัยสั่นอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันอาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่ร้ายแรงขึ้นได้ ซึ่งหากคุณปล่อยปัญหานี้ไว้นานๆ อาจทำให้เกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนอื่นๆ ของรถยนต์ได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ระบบป้องกันการสั่นสะเทือน หรือยางรถยนต์ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุได้ ดังนั้นจึงควรนำรถยนต์ไปตรวจเช็ก และซ่อมแซมที่ศูนย์บริการ หรืออู่ที่เชื่อถือได้ เมื่อพบว่าพวงมาลัยมีอาการสั่นทันที เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจตามมา  

สรุป 

พวงมาลัยสั่น เป็นอาการที่แสดงว่ารถยนต์มีสิ่งผิดปกติ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการตั้งศูนย์ถ่วงล้อไม่สมดุล จานเบรกคด พวงมาลัยไม่ตรง หรือแม้แต่ยางรถยนต์เสื่อมสภาพ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับรถที่มีการใช้งานมานาน และไม่ได้รับการตรวจเช็ก แต่ในขณะเดียวกัน นอกจากการพวงมาลัยสั่นแล้ว ยังมีอาการอื่นที่สามารถเกิดกับพวงมาลัยได้เช่น พวงมาลัยหนัก หรือพวงมาลัยไม่ตรงทั้งขณะขับและขณะจอด ซึ่งอาจเกิดจากที่เกี่ยวข้องกับระบบช่วงล่าง ระบบเบรก หรือระบบขับเคลื่อน 

ดังนั้นจึงควรเช็กสภาพรถตลอดอย่างสม่ำเสมอ หรือนำรถมาเช็กสภาพได้ที่ Autobacs ที่ดูแลรถได้แบบครบวงจร มีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญคอยบริการเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน

autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autiobacs-photos
autobacsสาระน่ารู้อื่นๆ

E-mail

Call Center

autobacs-contact

LINE Official

autobacs-line

Messenger

autobacs-messenger
to-top