
รถยางซึมบ่อย แก้อย่างไร? พร้อมวิธีเช็ก
วันที่เผยแพร่: 15 พ.ค. 2568
Key Takeaway
ยางซึมมีสาเหตุมาจากการถูกของมีคมทิ่มตำ การขับขี่ผ่านหลุมลึก หรือเบียดขอบทาง ขอบยางชำรุด เสื่อมสภาพ ฝาปิดวาล์วลมยางรถหลุดหาย และล้อรถเสียรูปทรง
เมื่อพบยางซึมสามารถแก้ได้ด้วยการปะยาง ซ่อมขอบล้อ การเปลี่ยนยางใหม่ และการปิดฝาวาล์วลม
วิธีสังเกตยางมีรอยซึมสามารถเช็กได้จากการสังเกตด้วยสายตาตนเอง เช็กเสียงลมรั่วในที่เงียบ และทดลองใช้น้ำสบู่ในการตรวจสอบร่วมด้วย
การป้องกันไม่ให้เกิดยางรั่วซึมเริ่มจากการตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ หมั่นตรวจสอบสภาพยางรถยนต์ก่อนใช้งาน เปลี่ยนฝาปิดวาล์วลมใหม่เมื่อเปลี่ยนยาง รวมถึงการเลือกใช้ยางที่มีคุณภาพ
ปัญหายางซึมเป็นปัญหายอดฮิตที่ผู้ขับขี่แทบทุกคนต้องเคยประสบพบเจอ หลายคนอาจสังเกตได้ว่าเติมลมยางไปไม่กี่วัน ลมยางกลับอ่อนลงอย่างผิดสังเกต สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนว่ารถของคุณกำลังมีปัญหายางรถยนต์ซึม โดยปกติแล้วลมยางรถจะอ่อนลงประมาณ 1-3 ปอนด์ต่อเดือน แต่หากสังเกตว่าล้อใดล้อหนึ่งอ่อนเร็วกว่าล้ออื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่ากำลังมีปัญหายางซึมแต่ไม่รั่ว บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับสาเหตุของยางซึมเกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้ไขและป้องกัน เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ
ยางซึมเกิดจากอะไร?
ปัญหายางรถยนต์ซึมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยแต่ละสาเหตุมีวิธีแก้ไขที่แตกต่างกัน อาจสงสัยว่า ยางรถซึมทําไง โดยสาเหตุที่ทำให้ยางรถซึมมีอะไรบ้างที่ทำให้ยางรถของคุณเกิดการรั่วซึมมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
ถูกของมีคมทิ่มตำ
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการเกิดยางซึม คือยางไปเหยียบถูกวัตถุมีคม เช่น ตะปู เศษแก้ว หรือเศษเหล็ก ซึ่งอาจทิ่มยางทะลุจนเกิดเป็นรูเล็กๆ ทำให้ลมค่อยๆ รั่วออกมา แต่ไม่ได้ทำให้ยางแบนในทันที ทำให้เราสังเกตเห็นได้ยากว่าเกิดรูรั่ว ความเสียหายลักษณะนี้สามารถเกิดได้ทั้งที่บริเวณหน้ายางและแก้มยาง
ขับขี่ผ่านหลุมลึก หรือเบียดขอบทาง
การขับรถตกหลุมอย่างแรงหรือการเฉี่ยวชนกับขอบถนน อาจทำให้แก้มยางได้รับความเสียหาย ผิดรูป หรือเป็นแผลจนเกิดยางรถยนต์ซึมได้ กรณีนี้มักเกิดบริเวณแก้มยางซึ่งเป็นจุดที่อ่อนแอที่สุดของยางรถยนต์ น้ำหนักของตัวรถและแรงกดทับทั้งหมดจะถ่ายเทไปที่ยาง ซึ่งอาจทำให้แก้มยางบวมและเกิดการระเบิดได้ในที่สุด
ขอบยางชำรุด หรือยางเสื่อมสภาพ
อีกหนึ่งสาเหตุของยางรถยนต์ซึม คือการเสื่อมสภาพของตัวยาง โดยเฉพาะบริเวณขอบยางใต้กระทะล้อที่ทำให้ยางและกระทะล้อติดกันไม่สนิท ยางที่มีอายุการใช้งานมานานกว่า 5 ปีหรือวิ่งมามากกว่า 50,000 กิโลเมตร มักเริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้ขอบยางอ่อนตัวลง ไม่สามารถประกบกับกระทะล้อได้แน่นสนิท จึงเกิดการรั่วซึมของลมยางได้
ฝาปิดวาล์วลมยางรถหลุดหาย
อีกสาเหตุยางซึมที่มักถูกมองข้ามคือฝาปิดวาล์วหรือจุ๊บเติมลมยางที่เสื่อมสภาพหรือหลุดหาย ถึงแม้จะเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ แต่ก็มีความสำคัญไม่น้อย เมื่อฝาปิดชำรุดหรือหายไป จะทำให้กรวด น้ำ หรือสิ่งสกปรกขนาดเล็กสามารถเข้าไปที่วาล์วเติมลม และทำให้วาล์วภายในซึ่งป้องกันลมออกเกิดความเสียหายจนเกิดการรั่วได้
ล้อรถเสียรูปทรง
ปัญหาล้อที่คดหรือบิดเบี้ยวก็สามารถทำให้เกิดการรั่วซึมได้เช่นกัน ล้อที่เสียรูปทรงอาจเกิดจากการสึกกร่อนหรือแรงกระแทกอย่างรุนแรง ทำให้ล้อคดหรือบิดเบี้ยว ส่งผลให้เกิดการรั่วในบริเวณขอบกระทะล้อ นอกจากนี้ ล้อที่คดยังทำให้รถสั่นสะเทือนระหว่างขับขี่และขอบยางชำรุด มียางซึมออกมาอีกด้วย
วิธีแก้ปัญหายางซึม
เมื่อพบว่ายางรถยนต์มีปัญหายางซึม สิ่งแรกที่ควรทำคือการหาตำแหน่งที่เกิดการรั่วซึม ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
ใช้น้ำสบู่ตรวจสอบ ผสมน้ำกับน้ำยาล้างจานหรือสบู่เหลวเล็กน้อย แล้วฉีดหรือทาลงบนยางรอบๆ จุดที่สงสัยว่าจะมีการรั่วซึม หากมีรูรั่ว จะเห็นฟองอากาศเกิดขึ้น ณ จุดนั้น
สังเกตเสียงลมรั่ว ในที่เงียบ อาจได้ยินเสียงลมรั่วออกมาจากยาง แม้จะเป็นเสียงเบาๆ ก็ตาม
ตรวจสอบด้วยสายตา หากรอยรั่วเกิดจากวัตถุมีคม อาจสังเกตเห็นตะปูหรือเศษวัสดุที่ปักคาอยู่ที่ยางได้
เมื่อพบตำแหน่งที่รั่วซึมแล้ว วิธีแก้ไขจะขึ้นอยู่กับลักษณะและตำแหน่งของรอยรั่ว
การปะยาง หากพบรูรั่วขนาดเล็กบริเวณดอกยาง (เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 1/4 นิ้ว) สามารถซ่อมแซมได้ด้วยวิธีปะยาง ซึ่งมีทั้งแบบแทงใยไหมหรือปะแบบหนังยาง
เปลี่ยนฝาปิดวาล์วลม หากปัญหาเกิดจากฝาปิดวาล์วลมชำรุดหรือหาย ให้เปลี่ยนฝาปิดใหม่ทันที
ซ่อมขอบล้อ กรณีล้อบิดเบี้ยวเล็กน้อย ช่างอาจใช้วิธีเคาะ ดัด หรือรีดเพื่อปรับให้ล้อกลับมามีรูปทรงที่ถูกต้อง
เปลี่ยนยางใหม่ หากรอยรั่วอยู่ที่แก้มยางหรือยางเสื่อมสภาพมาก การเปลี่ยนยางใหม่เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด เพราะการปะแก้มยางอาจไม่ปลอดภัยและอาจทำให้ยางระเบิดได้ในภายหลัง
ป้องกันและเช็กยางซึมด้วยตนเองอย่างไร
การป้องกันยางรถยนต์ซึมย่อมดีกว่าการแก้ไข ด้วยวิธีต่อไปนี้คุณสามารถป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายางรถซึมทำไง
ตรวจสอบแรงดันลมยางสม่ำเสมอ ควรตรวจเช็กลมยางอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้งก่อนออกเดินทางไกล ใช้เกจวัดลมยางที่ได้มาตรฐานเพื่อให้แน่ใจว่าลมยางอยู่ในระดับที่เหมาะสม
หมั่นตรวจสภาพยาง สังเกตว่ายาง ดอกยางรถมีรอยแตก รอยบวม หรือสึกหรอผิดปกติหรือไม่ และตรวจดูว่ามีวัตถุแปลกปลอม เช่น ตะปู ก้อนกรวด หรือเศษแก้วเข้าไปติดที่ดอกยางหรือไม่
เปลี่ยนฝาปิดวาล์วลมใหม่เมื่อเปลี่ยนยาง เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของฝาวาล์ว ควรเปลี่ยนฝาปิดวาล์วลมใหม่ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนยาง
ขับขี่อย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีหลุมบ่อหรือกองเศษวัสดุ และพยายามไม่ขับเฉี่ยวขอบถนนหรือขอบฟุตบาทอย่างแรง
เปลี่ยนยางตามอายุการใช้งาน แม้ว่าดอกยางจะยังไม่สึกมาก แต่หากยางมีอายุเกิน 5 ปี ควรพิจารณาเปลี่ยนใหม่ เพราะยางจะเริ่มเสื่อมสภาพและมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาได้มากขึ้น
ใช้ยางที่มีคุณภาพ เลือกซื้อยางจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงและไว้ใจได้ อย่าเลือกยางเพียงเพราะราคาถูก เพราะยางคุณภาพต่ำอาจมีอายุการใช้งานสั้นและเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาได้มากกว่า
สรุป
ยางซึมอาจดูเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้โดยไม่แก้ไข ก็นำไปสู่ความเสียหายที่ใหญ่ขึ้นและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ สาเหตุหลักของยางซึมเกิดจากอะไรนั้น มักมาจากการถูกของมีคมทิ่มตำ การขับผ่านหลุมลึกหรือเบียดขอบทาง ยางเสื่อมสภาพ ฝาปิดวาล์วลมชำรุด หรือล้อเสียรูปทรง
วิธีเช็กว่ารถยางซึมแต่ไม่รั่ว สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยน้ำสบู่ สังเกตเสียงลมรั่ว หรือตรวจสอบด้วยสายตา ส่วนวิธีแก้ไขนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุและตำแหน่งของรอยรั่ว ตั้งแต่การปะยาง เปลี่ยนฝาปิดวาล์ว ซ่อมขอบล้อ ไปจนถึงการเปลี่ยนยางใหม่ ที่สำคัญที่สุดคือการป้องกัน ด้วยการตรวจสอบแรงดันลมยางและสภาพยางอย่างสม่ำเสมอ ขับขี่อย่างระมัดระวัง และเปลี่ยนยางตามอายุการใช้งาน
การดูแลยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอไม่เพียงช่วยป้องกันปัญหายางรถยนต์ซึม แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ยืดอายุการใช้งานของยาง และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวอีกด้วย ดังนั้น อย่ามองข้ามการดูแลยางรถของคุณแบบครบวงจรที่ Autobacs พร้อมบริการตรวจเช็กสภาพรถฟรี 25 รายการและคำแนะนำดีๆ จากทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ มั่นใจทุกการเดินทาง