
รวมข้อควรรู้ ยางรถ EV ยางรถยนต์ไฟฟ้าสุดพรีเมียม
วันที่เผยแพร่: 23 ก.ค. 2567
ยางรถ EV หรือยางรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงยางรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเป็นยางรถที่ผลิตจากวัสดุพรีเมียม พร้อมนวัตกรรมประหยัดพลังงาน มีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน มาดูกันว่ายางรถ EV คืออะไร ต่างจากยางปกติยังไง ดีกว่ายังไง ใช้แทนกันได้ไหม อยู่ได้นานแค่ไหน ควรเปลี่ยนเมื่อไร เลือกยี่ห้อไหนดี และมีวิธีการดูแลรักษายังไง
ยางรถ EV คืออะไร
ยางรถ EV หรือยางรถยนต์ไฟฟ้า เป็นยางรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีแรงบิดที่สูงกว่ารถยนต์สันดาป หรือรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง นอกจากนั้นรถยนต์ไฟฟ้ายังมีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ทั่วไป 10-20% เพราะมีการติดตั้งแบตเตอรี่สำหรับไว้ใช้งาน ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ จึงจำเป็นต้องใช้ยางรถยนต์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะนั่นเอง
ยางรถ EV ต่างจากยางรถยนต์แบบปกติยังไง
ยางรถ EV มีความแตกต่างจากยางรถยนต์แบบปกติ โดยถูกออกแบบมาให้มีดอกยางและแก้มยางพิเศษ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากนั้นสารประกอบยางที่ใช้ในยางรถยนต์ไฟฟ้ามีสูตรที่แตกต่างจากยางปกติ เพื่อเพิ่มการรองรับน้ำหนัก การยึดเกาะ การทนทานต่อความร้อนที่สูงขึ้น ซึ่งยาง EV จะมีคุณสมบัติที่ลดเสียงรบกวนได้ดี ทนต่อแรงบิดสูง รับน้ำหนักได้มากกว่าปกติ ยึดเกาะกับพื้นถนนได้ดี ช่วยประหยัดพลังงาน เนื่องจากมีแรงต้านทานการหมุนต่ำนั่นเอง ที่สำคัญยางรถยนต์ไฟฟ้าราคาสูงกว่ายางปกติหลายเท่าตัว
ยางรถยนต์ทั่วไป ใช้แทนยางรถยนต์ไฟฟ้าได้ไหม
ในความเป็นจริงยางรถยนต์ทั่วไปสามารถใช้แทนยางรถยนต์ไฟฟ้าได้ แต่ทาง AUTOBACS ไม่แนะนำ เพราะยางทั่วไปมีคุณสมบัติที่ไม่รองรับความสามารถในการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้าได้ เพราะยาง EV ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งทำให้ได้รับประสบการณ์ในการขับขี่ที่ดีกว่า มีความทนทานกว่า สามารถขับขี่ได้ไกลกว่า ที่สำคัญคือมีความปลอดภัยมากกว่านั่นเอง
ยางรถ EV มีดีกว่ายางทั่วไปยังไง?
ยาง EV มีความแตกต่างจากยางรถยนต์ปกติทั่วไปในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่รถไฟฟ้าให้ดียิ่งขึ้น จึงมีคุณสมบัติที่ดีกว่ายางทั่วไป ดังนี้
1. ทนต่อแรงบิด
ยางรถยนต์ไฟฟ้ามักจะต้องรับมือกับแรงบิดเฉพาะที่เกิดจากมอเตอร์ไฟฟ้า ยาง EV ได้รับการออกแบบให้มีแก้มยางเสริมความแข็งแรงและรูปแบบดอกยางพิเศษ เพื่อทนต่อความเครียดและแรงบิดที่รถยนต์ไฟฟ้ามีมากกว่ารถยนต์แบบสันดาปทั่วไป ทำให้ยางเหล่านี้มีความยืดหยุ่นต่อแรงบิดตัวมากกว่าเมื่อเทียบกับยางทั่วไป
2. วิ่งได้ไกล
ยาง EV ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนประสิทธิภาพโดยรวมของรถยนต์ไฟฟ้า โดยการลดความต้านทานต่อการหมุน แรงต้านการหมุนที่ต่ำลงส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานน้อยลง จึงช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้ามีระยะการขับขี่ที่ยาวนานขึ้นกว่ายางธรรมดานั่นเอง
3. ไร้เสียงรบกวน
ยางรถ EV ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดเสียงรบกวนจากถนนและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบยิ่งขึ้นกว่ายางรถทั่วไป ด้วยรูปแบบดอกยางและวัสดุที่ใช้ในยางรถยนต์ไฟฟ้า ช่วยลดเสียงรบกวนจากการหมุน ซึ่งอาจจะเป็นสารประกอบที่มีความสามารถในการดูดซับเสียงได้ดี หรือใช้โฟมซับเสียงใส่เข้าไปในตัวยาง
4. ยึดเกาะได้ดี
การยึดเกาะถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งความปลอดภัยและสมรรถนะ และยาง EV ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีการยึดเกาะถนนได้ดี ด้วยลักษณะแรงบิดที่สูงของรถยนต์ไฟฟ้า จึงต้องใช้ยางที่สามารถถ่ายโอนพลังงานลงสู่พื้นดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ การออกแบบดอกยางแบบพิเศษและสารประกอบยางช่วยเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะได้ดีกว่ายางทั่วไป ทำให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพในระหว่างการเร่งความเร็ว การเบรก และการเข้าโค้ง
5. รองรับน้ำหนักได้เยอะ
รถยนต์ไฟฟ้ามักจะมีชุดแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อน้ำหนักโดยรวมของรถ ยางรถ EV จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักเพิ่มเติมเหล่านี้ โครงสร้างและวัสดุที่ใช้ในยางรถยนต์ไฟฟ้าได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีความสามารถในการรับน้ำหนักที่มากกว่ายางปกติทั่วไป เพื่อให้มั่นใจว่ายางสามารถรองรับน้ำหนักของยานพาหนะได้ โดยไม่กระทบต่อความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพในการขับขี่
ยางรถ EV ยี่ห้อไหนดี
ยางรถ EV ในท้องตลาดมีหลายยี่ห้อให้เลือกมากมาย ซึ่งทาง AUTOBACS มียี่ห้อยางชั้นนำที่มีชื่อเสียงที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่า มีคุณภาพดี และให้สมรรถนะในการขับขี่ที่สูงและมีประสิทธิภาพดีมาแนะนำ ดังนี้
MICHELIN E-Primacy : เป็นยางที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดโดยเฉพาะ สูตรเนื้อยางมีความยืดหยุ่นสูง เข็มขัดรัดหน้ายางออกแบบมาให้บางลงในขณะที่ยังคงความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพสูง เป็นยางที่ช่วยประหยัดพลังงาน อายุการใช้งานยาวนาน มีความนุ่มและเงียบ ให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม
MICHELIN Pilot Sport 4 SUV : ยางสำหรับรถ SUV ที่มีประสิทธิภาพสูง สูตรยางเนื้อใหม่ให้ขับขี่ได้ดีทั้งในถนนที่แห้งและเปียก ให้ระยะเบรกที่สั้นกว่า มีความปลอดภัยสูง โครงสร้างแข็งแรงสองชั้น อายุการใช้งานยาวนาน ดอกยางถูกออกแบบมาพิเศษให้มีความนุ่มและเงียบ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
Bridgestone Turanza 6 : ยางที่ถูกออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดโดยเฉพาะ รวมถึงรถ SUV ด้วย ขับขี่ได้ดีบนถนนแห้งและเปียก มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง ความต้านทานในการหมุนต่ำ ช่วยประหยัดพลังงาน ทำให้ขับขี่ได้ไกลขึ้น มีความทนทานสูง อายุการใช้งานยาวนาน ลดเสียงรบกวนได้ดี เพื่อให้ผู้โดยสารและผู้ขับขี่นั่งได้อย่างสบาย
Bridgestone Alenza 001 : นวัตกรรมยางรถยนต์ระดับสูงสุดพรีเมียม สามารถยึดเกาะบนถนนได้ดีทั้งแห้งและเปียก เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่สูงสุด มาพร้อมกับเนื้อยางสูตรพิเศษที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยร่องดอกยางที่ถูกออกแบบมาพิเศษ ทำให้ลดเสียงรบกวนได้ดี เพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่และการโดยสาร
ยางรถ EV อยู่ได้นานแค่ไหน ควรเปลี่ยนเมื่อไร
ยาง EV จะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและการขับขี่ด้วย แต่โดยส่วนใหญ่ยางรถ EV จะถูกออกแบบมาให้มีความทนทานสูง มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า 5 ปี หากเลือกสเปกยางที่เหมาะสมกับตัวรถยนต์ และมีการใช้งานอย่างเหมาะสม ซึ่งควรเปลี่ยนเมื่อยางมีอายุครบ 5 ปี โดยยางรถยนต์ไฟฟ้าบางยี่ห้อมีการรับประกันสินค้านานถึง 5 ปี ทำให้เจ้าของรถยนต์สบายใจได้ตลอดอายุการใช้งาน แต่หากยางเกิดแตก บวม โดนของแข็งต่ำ จนทำให้ยางระเบิด รั่ว หรือเสียหาย ก็ควรเปลี่ยนยางในทันที หรือเรียกช่างจากศูนย์บริการเพื่อให้มาตรวจเช็กดูว่าสามารถซ่อมหรือปะยางได้หรือไม่ เพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัย
ดูแลยางรถ EV อย่างถูกวิธี ใช้งานได้นานขึ้น
แม้ว่ายางรถ EV จะถูกออกแบบมาให้มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม ประสิทธิภาพสูง และทำให้สมรรถนะในการขับขี่ดีขึ้น แต่ก็ต้องได้รับการดูแลยางอย่างถูกวิธีเช่นกัน เพื่อให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น ดังนี้
หมั่นตรวจเช็กด้วยตาเปล่า
ตรวจสอบยาง EV ด้วยสายตาเป็นประจำเพื่อระบุถึงสัญญาณการสึกหรอ ความเสียหาย หรือความผิดปกติที่มองเห็นได้ มองหารอยตัด รอยนูน หรือรอยเจาะบนแก้มยางและดอกยาง การตรวจพบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการตรวจสอบด้วยสายตา สามารถช่วยป้องกันปัญหาที่ใหญ่ขึ้นและยืดอายุการใช้งานของยางได้
ตรวจเช็กความลึกดอกยางเสมอ
หมั่นตรวจสอบความลึกของดอกยางรถยนต์ไฟฟ้าอยู่เสมอ โดยดูได้จากสะพานยาง ซึ่งความลึกของดอกยางไม่ควรต่ำกว่าสะพานยาง หรือประมาณ 1.6 มิลลิเมตร ซึ่งจะใช้เครื่องวัดความลึกของดอกยางที่เรียกว่า เกจวัดความลึกร่องดอกยาง ก็ได้ ซึ่งจะให้ค่าที่แม่นยำมากกว่า หากพบว่าความลึกต่ำกว่าเกณฑ์กำหนด ก็หมายความได้ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางใหม่แล้วนั่นเอง
อย่าละเลยลมยาง
ควรตรวจสอบลมยางเป็นประจำ ว่าลมยางต่ำหรือสูงเกินกว่าสเปกรถยนต์ที่กำหนดหรือไม่ เพราะความดันในลมยางรถ EV ที่ไม่พอดี อาจมีโอกาสให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งโดยปกติผู้ผลิตรถยนต์จะกำหนดค่าลมยางที่เหมาะสมมาให้ เพื่อให้สมรรถนะในการขับขี่นั้นมีประสิทธิภาพและสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
สลับยางอย่างสม่ำเสมอ
การสลับยางรถยนต์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่ายางทั้งสี่เส้นสึกหรอเท่ากัน เพราะรถยนต์ไฟฟ้าอาจมีการสึกหรอของยางที่ไม่สม่ำเสมอ เนื่องมาจากการกระจายน้ำหนักที่ไม่เหมือนกับรถยนต์ทั่วไป ด้วยแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักมาก การสลับยางเป็นระยะ ๆ จะช่วยให้ยางสึกเท่า ๆ กัน ทำให้ยืดระยะเวลาการเปลี่ยนยางไปได้อีกนาน และยืดอายุการใช้งานโดยรวมของชุดยางอีกด้วย
เช็กการสึกหรอของยาง
หมั่นตรวจสอบการสึกหรอของยาง EV ที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอ เช่น ดอกยางด้านซ้ายสึกเร็วกว่าดอกยางด้านขวา ดอกยางสึกไม่สม่ำเสมอกัน ซึ่งอาจจะเกิดมาจากศูนย์ล้อผิดไปจากมาตรฐานที่ควรจะเป็น โดยอาจจะต้องไปทำการตั้งศูนย์ล้อใหม่ ปรับตั้งองศาของพวงมาลัย ปรับแต่งมุมอะไหล่ช่วงล่าง ให้ตรงตามมาตรฐาน เพื่อให้ยางสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้นได้
สรุป
ยาง EV คือยางที่ถูกออกแบบและผลิตขึ้นมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่ายางปกติธรรมดาทั่วไป ทนต่อแรงบิดได้สูง ยึดเกาะได้ดี มีเสียงรบกวนน้อย ประหยัดพลังงาน วิ่งได้ไกล รองรับน้ำหนักได้มาก ทำให้สมรรถนะในการขับขี่ยอดเยี่ยม ซึ่งที่ Autobacs Thailand มียาง EV จากยี่ห้อชั้นนำให้เลือกมากมาย พร้อมช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ และคอยให้บริการ ด้วยความดูแลใส่ใจอย่างเป็นมิตร รวมทั้งบริการด้านอื่น ๆ แบบครบวงจร มาที่นี่ ครบ-เคลียร์-จบ ทุกเรื่องรถ