แก้มยางคืออะไร หน้าที่และความสำคัญที่คุณต้องรู้

Key Takeaway

• แก้มยางคือส่วนด้านข้างของยางที่เชื่อมระหว่างดอกยางกับขอบยาง เป็นส่วนที่มีลักษณะเรียบและมักมีข้อมูลยางระบุอยู่

• แก้มยางทำหน้าที่รับแรงกระแทก ช่วยในการเลี้ยว รับน้ำหนักรถ และแสดงข้อมูลสำคัญของยาง

• แก้มยางสูงให้ความนุ่มนวลและทนทานกว่า ขณะที่แก้มยางเตี้ยให้การยึดเกาะและความคล่องตัวที่ดีกว่า

• การดูแลแก้มยางทำได้โดยตรวจสอบสภาพยางสม่ำเสมอ รักษาแรงดันลมยางให้เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการขับขี่ที่รุนแรง
  

ยางรถยนต์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่มีผู้ใช้รถจำนวนไม่น้อยที่มองข้ามความสำคัญของส่วนประกอบต่างๆ ของยางรถยนต์ โดยเฉพาะ "แก้มยาง" ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักรถและมีความสำคัญต่อความปลอดภัยในการขับขี่อย่างมาก บทความนี้จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับแก้มยาง หน้าที่การทำงาน ความแตกต่างระหว่างยางแก้มเตี้ยและยางแก้มสูง รวมถึงวิธีการดูแลรักษาแก้มยางให้อยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย

ทำความรู้จักกับแก้มยาง

แก้มยาง คือส่วนของยางที่อยู่ด้านข้างระหว่างขอบยางและหน้ายาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะเรียบ ไม่มีดอกยาง และมักมีข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ของยางพิมพ์อยู่ คำถามที่พบบ่อยคือ "แก้มยางคือตรงไหน" ซึ่งหากสังเกตจากด้านข้างของยาง จะเห็นส่วนที่เชื่อมระหว่างดอกยาง (ส่วนที่สัมผัสพื้น) กับขอบยาง (ส่วนที่ติดกับล้อ) นั่นคือแก้มยาง ซึ่งยางรถยนต์โดยทั่วไปมีโครงสร้างหลักประกอบด้วย

• ดอกยางรถ (Tread) ส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง

• แก้มยาง (Sidewall) ส่วนข้างของยาง เชื่อมระหว่างดอกยางและขอบยาง

• ขอบยาง (Bead) ส่วนที่สัมผัสกับกระทะล้อ

• โครงสร้างภายใน ประกอบด้วยผ้าใบและวัสดุเสริมความแข็งแรง

หน้าที่และความสำคัญของแก้มยาง

แก้มยางไม่ได้เป็นเพียงที่แสดงข้อมูลยางเท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่สำคัญในการใช้งานยางรถยนต์ ดังนี้

• รับแรงกระแทก แก้มยางทำหน้าที่เหมือนโช้กอัปช่วยดูดซับแรงกระแทกจากพื้นถนนที่ไม่เรียบ ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น

• ช่วยในการเลี้ยว แก้มยางมีส่วนช่วยในการบังคับทิศทางและการเลี้ยวของรถยนต์ โดยยางที่มีแก้มยางที่แตกต่างกันจะให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่ต่างกัน

• รับน้ำหนักรถ แก้มยางช่วยรับและกระจายน้ำหนักของรถยนต์ ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญในการรักษาเสถียรภาพของรถ

• บ่งบอกข้อมูลสำคัญ บนแก้มยางมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับยาง เช่น ขนาดยาง วันที่ผลิต ค่าดัชนีความเร็ว และค่าดัชนีการรับน้ำหนัก

ตัวเลขบนแก้มยางบอกอะไรเราบ้าง?

ข้อมูลที่ปรากฏบนแก้มยางมีความสำคัญมาก เพราะบอกถึงคุณสมบัติและข้อจำกัดต่างๆ ของยาง ตัวอย่างข้อมูลที่มักปรากฏบนแก้มยางที่สังเกตเห็นได้ มีดังนี้

• ความกว้างของหน้ายาง ตัวเลขแรกบอกความกว้างของหน้ายางในหน่วยมิลลิเมตร เช่น ในยาง 215/70 R15 หมายถึง ยางมีความกว้าง 215 มิลลิเมตร

• ความสูงของแก้มยาง/ซีรีส์ ตัวเลขถัดมาเป็นอัตราส่วนระหว่างความกว้างหน้ายางกับความสูงของแก้มยาง มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 70 หมายถึง ความสูงของแก้มยางเท่ากับ 70% ของความกว้างหน้ายาง

• โครงสร้างของยาง ตัวอักษรที่ตามมา เช่น R (Radial) หมายถึง ยางที่มีโครงสร้างเป็นแบบเรเดียล ซึ่งมีชั้นผ้าใบและแถบเส้นใยเหล็กเสริมหน้ายาง

• เส้นผ่านศูนย์กลางกระทะล้อ ตัวเลขสุดท้าย บอกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของกระทะล้อ มีหน่วยเป็นนิ้ว เช่น 15 หมายถึงล้อมีขนาด 15 นิ้ว

• ดัชนีการรับน้ำหนัก ตัวเลขที่ระบุความสามารถในการรองรับน้ำหนักของยางแต่ละเส้น โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 80-112 ซึ่งรองรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 450-1,120 กิโลกรัม

• ดัชนีระบุความเร็ว ตัวอักษรที่บอกถึงความเร็วสูงสุดที่ยางสามารถรองรับได้อย่างปลอดภัย เช่น W หมายถึงความเร็วสูงสุด 270 กม./ชม.

• วันเดือนปีที่ผลิต (DOT) รหัส 4 ตัวสุดท้ายของเลข DOT โดย 2 ตัวแรกคือสัปดาห์ที่ผลิต และ 2 ตัวหลังคือปีที่ผลิต (ค.ศ.) เช่น 2420 หมายถึงผลิตในสัปดาห์ที่ 24 ปี 2020

ความแตกต่างระหว่างแก้มยางสูง แก้มยางเตี้ย ควรใช้แบบใด?

ความสูงของแก้มยางมีผลต่อสมรรถนะและความสบายในการขับขี่อย่างมาก ผู้ใช้รถควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและลักษณะของรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นยางแก้มเตี้ย หรือยางแก้มสูง

คำนวณความสูงของแก้มยางรถยนต์อย่างไร

สูตรคำนวณความสูงของแก้มยาง คือ ความสูงแก้มยาง = ความกว้างของหน้ายาง × (อัตราส่วนแก้มยาง ÷ 100)

ตัวอย่าง ยาง 215/70 R15 ความสูงแก้มยาง = 215 × (70 ÷ 100) = 215 × 0.7 = 150.5 มิลลิเมตร

แก้มยางสูง

ข้อดีของแก้มยางสูง แก้มยางสูงให้ความนุ่มนวลในการขับขี่มากกว่า เพราะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดี ทำให้เหมาะกับการขับขี่บนถนนที่มีสภาพไม่ดี หรือมีหลุมบ่อมาก นอกจากนี้ยังทนทานต่อการกระแทกและการฉีกขาดได้ดีกว่ายางแก้มเตี้ย และยังช่วยประหยัดน้ำมันเนื่องจากมีแรงเสียดทานน้อยกว่า

ข้อเสียของแก้มยางสูง คือให้การยึดเกาะถนนขณะเลี้ยวไม่ดีเท่ายางแก้มเตี้ย ความรู้สึกขณะขับขี่อาจไม่ฉับไวเท่า และอาจมีอาการโคลงเคลงมากกว่าเมื่อขับที่ความเร็วสูง ทำให้ความรู้สึกในการควบคุมรถอาจไม่แม่นยำเท่าที่ควร

แก้มยางสูงเหมาะกับรถประเภทใด แก้มยางสูงเหมาะกับรถเอสยูวี รถกระบะ รถอเนกประสงค์ และการใช้งานบนถนนที่มีสภาพไม่ดี หรือการขับขี่ออฟโรด รวมถึงผู้ที่ต้องการความนุ่มนวลในการขับขี่มากกว่าความสปอร์ต

แก้มยางเตี้ย

ข้อดีของยางแก้มเตี้ย คือการให้ความรู้สึกขณะขับขี่ที่เฉียบคมและตอบสนองไวกว่า การยึดเกาะถนนขณะเลี้ยวดีกว่า ทำให้การควบคุมรถทำได้แม่นยำกว่า มีความเสถียรที่ความเร็วสูง ไม่เกิดอาการโคลงเคลงง่าย นอกจากนี้ยังมีรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ตและสวยงามกว่า รุ่นยอดนิยมเช่น ยางแก้มเตี้ยขอบ 17 หรือ ยางขอบ 12 แก้มเตี้ยมักถูกใช้ในรถสปอร์ตหรือรถที่ต้องการความคล่องตัวสูง

ข้อเสียของยางแก้มเตี้ย คือมีความนุ่มนวลในการขับขี่น้อยกว่า ทำให้รู้สึกถึงความขรุขระของถนนมากขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายที่ล้อและยางมากกว่าเมื่อขับผ่านหลุมบ่อ นอกจากนี้ยังสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าเนื่องจากมีแรงเสียดทานสูง และมักมีราคาสูงกว่ายางแก้มสูง

ยางแก้มเตี้ยเหมาะกับรถประเภทใด ยางแก้มเตี้ยเหมาะกับรถสปอร์ต รถซีดาน รถที่ใช้ขับบนถนนที่มีสภาพดี และผู้ที่ต้องการความรู้สึกสปอร์ตในการขับขี่ ยางประเภทนี้ได้รับความนิยมมากในกลุ่มผู้ใช้รถที่ชื่นชอบการขับขี่แบบสปอร์ต แต่ผู้ใช้ควรคำนึงถึงสภาพถนนในพื้นที่ที่ใช้งานประจำด้วย

ปัญหาที่พบบ่อยของแก้มยาง

แก้มยางเป็นจุดที่อ่อนแอที่สุดของยางรถยนต์ โดยมีปัญหาที่มักพบบ่อย ได้แก่

• แก้มยางฉีกขาด เกิดจากการชนขอบถนน ขับผ่านหลุมลึก หรือเจอวัสดุแหลมคม

• รอยแตกลายงา เกิดจากยางเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หรือการตากแดดเป็นเวลานาน

• แก้มยางบวม เกิดจากโครงสร้างภายในของยางเสียหาย อาจนำไปสู่การระเบิดของยางได้

• แก้มยางถลอก เกิดจากการเสียดสีกับขอบฟุตบาทหรือวัตถุอื่นๆ

หากพบว่าแก้มยางฉีกขาดลึกถึงผ้าใบ ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทันที ไม่ควรซ่อมแซม เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดยางระเบิดได้ในอนาคต ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

วิธีดูแลรักษาแก้มยาง ทำอย่างไร

การดูแลรักษาแก้มยางที่ดีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ดังนี้

• หมั่นตรวจสอบสภาพยาง ควรตรวจสอบยางเป็นประจำ โดยดูว่ามีรอยแตก รอยบวม หรือการฉีกขาดหรือไม่

• รักษาแรงดันลมยางให้เหมาะสม แรงดันลมยางที่ไม่เหมาะสมทั้งมากหรือน้อยเกินไปจะส่งผลเสียต่อแก้มยาง

• หลีกเลี่ยงการขับขี่ที่รุนแรง ลดความเร็วเมื่อขับผ่านหลุมบ่อหรือสภาพถนนที่ไม่ดี

• ระวังการจอดรถ หลีกเลี่ยงการจอดรถชิดขอบฟุตบาทหรือวัตถุที่อาจเสียดสีกับแก้มยาง

• ป้องกันยางจากแสงแดดและสารเคมี จอดรถในที่ร่มหรือใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษายางโดยเฉพาะ

• เลือกใช้น้ำยาล้างยางที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนหรือมีส่วนผสมของสารละลาย

• ไม่ปรับแต่งล้อและยาง  การใช้ยางที่ไม่ได้ขนาดตามที่ผู้ผลิตแนะนำอาจทำให้แก้มยางเสียหายได้

สรุป

แก้มยางรถยนต์มีหน้าที่รับแรงกระแทก รับน้ำหนัก ช่วยในการบังคับทิศทางของรถ และแสดงข้อมูลสำคัญของยาง เช่น ขนาด ความสามารถในการรับน้ำหนัก ดัชนีความเร็ว และวันที่ผลิต โดยความแตกต่างระหว่างแก้มยางสูงและยางแก้มเตี้ยนั้นมีผลต่อการขับขี่ ยางแก้มสูงจะให้ความนุ่มนวลมากกว่า แต่ยางแก้มเตี้ยจะให้ความรู้สึกที่เฉียบคมและการยึดเกาะถนนที่ดีกว่า 

ปัญหาที่พบบ่อยกับแก้มยาง มักพบการฉีกขาด รอยแตกลายงา และการบวม หากพบปัญหาเหล่านี้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเสียหายและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง ส่วนการดูแลรักษาแก้มยางที่ดี ทำได้ด้วยการตรวจสอบสภาพยางเป็นประจำ การรักษาแรงดันลมยางให้เหมาะสม และการหลีกเลี่ยงการขับขี่ที่รุนแรง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

สำหรับบริการตรวจเช็คสภาพยางและแก้มยางอย่างมืออาชีพ สามารถติดต่อศูนย์บริการ Autobacs ที่มีเครื่องมือที่ทันสมัยและทีมช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่ของคุ