
เลือกยางรถเก๋งยังไงให้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ
วันที่เผยแพร่: 23 ก.ค. 2567
Key Takeaway
หากยางรถยนต์อยู่ในสภาพไม่ดี ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ผู้ขับขี่รถทุกคนจึงควรตรวจเช็กสภาพยางอยู่เสมอ
ยางรถเก๋งประหยัดน้ำมัน คือ ยางที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานในการหมุนของล้อกับพื้นถนนอย่าง Michelin Energy XM2+, Bridgestone Ecopia EP150, Yokohama Blu Earth ES32
ยางรถเก๋งนุ่มเงียบ คือ ยางที่เหมาะกับผู้ใช้รถเดินทางในชีวิตประจำวัน ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นความนุ่มเงียบ และความนุ่มสบายของการขับขี่เป็นหลักอย่าง Michelin Primacy 4, Bridgestone Turanza T005A, Yokohama Blu Earth AE51, Dunlop SP Sport LM705
ยางรถเก๋งสไตล์สปอร์ตมีสมรรถนะในการขับขี่สูง ออกแบบมาเพื่อการควบคุมขณะขับด้วยความเร็วสูงอย่าง Michelin Pilot Sport 5, Bridgestone Potenza ADRENALIN RE004, Yokohama Advan Fleva V701
ยางรถเก๋งแบบ EV คือ ยางรถยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดสูงโดยเฉพาะอย่าง Michelin Pilot Sport EV, Michelin, Yokohama ADVAN DB V553
ควรเปลี่ยนยางกับศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน อย่าง AUTOBACS ศูนย์บริการรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน อันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น สามารถนำมาเปลี่ยนได้ทันที มียางให้เลือกหลายรุ่น หลายยี่ห้อ “ครบ-เคลียร์-จบ” ได้ที่นี่
รถแต่ละประเภทที่ขับขี่บนท้องถนน ก็ต้องการยางรถยนต์ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่ บทความนี้จะพามาดูว่ายางรถเก๋งมีประเภทไหนบ้าง พร้อมให้คำแนะนำว่าเลือกยางยี่ห้ออะไร รุ่นไหนดี
ทำไมต้องเลือกยางรถเก๋งโดยเฉพาะ
ยางรถเก๋ง คือ ยางรถยนต์ทั่วไป มีคุณสมบัติเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น ยางรถเก๋งให้ความนุ่มนวลและไร้เสียงรบกวนขณะขับขี่ มีประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนช่วยให้ขับขี่ได้ปลอดภัย และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่า
การเลือกยางรถเก๋งที่ถูกต้อง ให้เหมาะกับประเภทรถ เหมาะสมกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์การขับขี่ ก็มีความสำคัญต่อประสิทธิภาพในการขับขี่ เพราะยางจะตอบสนองต่อการขับขี่ ทำให้ผู้ใช้รถควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ยางมีความทนทานเหมาะกับประเภทงานที่ใช้ รวมไปถึงความเหมาะสมและความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนน
ประเภทรถเก๋ง กับการใช้งานที่ต่างกัน
ประเภทรถยนต์ (Car Segment) คือ การแบ่งประเภทรถยนต์ตามขนาด ส่วนใหญ่ใช้กับรถเก๋ง และรถยนต์ทั่วไป ซึ่งประเภทรถเก๋งแต่ละแบบ ก็เหมาะกับการใช้งาน การบรรทุก การเลือกยางรถเก๋งที่แตกต่างกัน ประเภทของรถเก๋งมีดังนี้
1. รถเก๋งแบบ A-SEGMENT (ECO Car)
รถเก๋ง A Segment (ECO Car) เป็นรถยนต์ขนาดเล็ก เน้นความคล่องตัวในการขับขี่ และการจอดที่สะดวก มีขนาดเครื่องยนต์อยู่ที่ 1,000-1,300 CC. มีคุณสมบัติพิเศษ คือ ค่าบำรุงรักษาไม่แพง สามารถเลือกใช้ยางรถเก๋งได้ง่าย เป็นรถประหยัดน้ำมัน ราคาเข้าถึงง่าย โดยมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 500,000 บาท เหมาะกับการขับในเมือง การเข้าซอกซอยต่าง ๆ และเหมาะกับคนที่ขับแถบชานเมืองเป็นประจำ
2. รถเก๋งแบบ B-SEGMENT (Subcompact Car)
รถเก๋งประเภท B Segment หรือ รถเก๋งขนาด Sub Compact Car คือ อีกหนึ่งรถเก๋งที่ได้รับความนิยมมาก มีขนาดตัวถังใหญ่กว่า A Segment แต่เป็นขนาดที่พอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป มาพร้อมกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ 1,500 CC. รถยนต์ B Segment มีคุณสมบัติพิเศษ ที่กำลังของเครื่องยนต์เหมาะกับทุกการเดินทาง ภายในห้องโดยสารนั่งได้สะดวกสบาย และมีราคาที่ไม่สูงเกินไป เลือกใส่ยางรถเก๋ง และขอบล้อยางได้หลากหลาย จึงขับขี่ได้ทั้งในเมือง นอกเมือง หรือขับเพื่อทำความเร็ว
2. รถเก๋งแบบ C-SEGMENT (Compact Car)
รถเก๋งประเภท C Segment หรือ รถเก๋งขนาด Compact Car คือ รถเก๋งที่มีขนาดตัวถังใหญ่กว่า B Segment เป็นรถยนต์ขนาดกลาง ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป มีขนาดเครื่องยนต์อยู่ที่ 1,500-2,500 CC. รถยนต์ประเภท C Segment มีลักษณะพิเศษ ห้องโดยสารกว้าง รองรับการใช้งานหลากหลาย ทั้งการโดยสาร และการขนสิ่งของต่าง ๆ ช่วงล่างยึดเกาะถนนได้ดี และเลือกยางรถเก๋งได้หลากหลาย ทั้งยางนุ่มเงียบ และยางประหยัดน้ำมัน ซึ่งรถยนต์ประเภทนี้เหมาะกับการขับขี่หลากหลายสไตล์ ขับได้คล่องตัวทั้งในเมืองและนอกเมือง หรือขับทางไกลได้สะดวกขึ้น
3. รถเก๋งแบบ D-SEGMENT
รถเก๋งประเภท D Segment คือ รถเก๋งขนาด Mid Size ที่เน้นทั้งการขับขี่และการโดยสารที่สะดวกสบาย รถประเภทนี้ มาพร้อมกับขนาดเครื่องยนต์ที่มากกว่า 2,500 CC. ขึ้นไป ลักษณะพิเศษของรถประเภทนี้ คือ ที่นั่งขนาดใหญ่ ภายในตกแต่งด้วยความหรูหรา มีเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร สามารถเลือกใช้ยางรถเก๋งประหยัดน้ำมัน หรือยางรถเก๋งแบบนุ่มเงียบได้ เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการสมรรถนะในการขับขี่ ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทุกการขับขี่ สามารถขับได้ทั้งในเมือง นอกเมือง แต่ไม่เหมาะกับการขับลุย
4. รถเก๋งแบบ CROSSOVER
รถครอสโอเวอร์ (Crossover) หรือรถเก๋งสไตล์ยกสูง คือ รถที่อยู่ในหมวดหมู่รถยนต์อเนกประสงค์ มีขนาดเครื่องยนต์ 1,500-1,800 CC. เป็นรถที่ถูกสร้างขึ้นจากฐานของรถเก๋ง โดยปรับฐานล้อให้ยกสูงคล้ายกับ รถเอสยูวี (SUV) แต่ภายในห้องโดยสารของรถบางรุ่น อาจไม่ได้ต่างจากรถยนต์ทั่วไป คุณสมบัติพิเศษของรถยนต์ประเภทนี้ คือ มีสมรรถนะในการขับขี่ดีกว่ารถเก๋ง เลือกใช้ยางได้คล้ายกับยางรถเก๋งทั่วไป เป็นรถอีกประเภทที่เหมาะกับการใช้งานทางไกล หรือการขนสิ่งของได้สะดวกสบาย
ประเภทยางรถเก๋งยอดนิยม เลือกใช้แบบไหนดี?
ปัจจุบันยางรถเก๋งมีหลายประเภท แต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน มาดูกันว่ายางรถเก๋งแต่ละประเภทราคาเท่าไหร่ เลือกเปลี่ยนอย่างไรให้เหมาะกับสไตล์การขับขี่
ยางรถเก๋งประหยัดน้ำมัน
ยางรถเก๋งประหยัดน้ำมัน คือ ยางรถยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานในการหมุนของล้อกับพื้นถนน ดอกยางมีคุณสมบัติ ในการลดแรงต้านของการหมุนของล้อ จึงช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยยางรถเก๋งประหยัดน้ำมัน เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ต้องการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง และวิ่งบนท้องถนนทั่วไป ทั้งในเมืองและนอกเมือง มากกว่าวิ่งบนถนนขรุขระ
Michelin Energy XM2+ ยางสำหรับรถเก๋งขนาดเล็ก เนื้อยาง Full Silica ลิขสิทธิ์เฉพาะจากมิชลิน ให้หน้ายางยึดเกาะพื้นถนนแห้ง และถนนเปียกได้อย่างดี ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล ไร้เสียงรบกวนจากพื้นถนน และมั่นใจทุกระยะการเบรก ราคายางรถเก๋งเริ่มต้น 3,800 บาท
Bridgestone Ecopia EP150 ยางมาตรฐานสำหรับการประกอบรถยนต์ ดอกยางออกแบบใหม่ช่วยเพิ่มสมรรถนะการเบรก และเทคโนโลยี Ecopia Compound ลดแรงเสียดทาน ลดการสูญเสียพลังงาน ช่วยประหยัดน้ำมัน ในราคาเริ่มต้น 3,180 บาท
Bridgestone Ecopia EP300 ยางประหยัดน้ำมัน เทคโนโลยี Nano Pro-Tech ช่วยต้านทานการหมุนของล้อ จึงประหยัดน้ำมันได้มากกว่า อีกทั้งดอกยางที่กระจายแรงกดได้สม่ำเสมอ ช่วยให้เพิ่มสมรรถนะการยึดเกาะถนนบนพื้นถนนเปียกลื่นได้อย่างดี เริ่มต้น 4,350 บาท
Yokohama Blu Earth ES32 ยางพรีเมียมที่สมดุลในทุกด้าน ทั้งเนื้อยางถูกออกแบบมาเพื่อประหยัดน้ำมัน ดอกยางที่แข็งแรงแต่ยังคงมีความนุ่มนวล และไหล่ยางที่แข็งแกร่ง เพิ่มความทนทานให้การยึดเกาะถนนดีเยี่ยม เริ่มต้น 3,340 บาท
Dunlop Enasave EC300+ ยางรถเก๋งประหยัดน้ำมัน ส่วนผสมของเนื้อยางใหม่ Multi-Functionalized Polymer ช่วยประหยัดมากขึ้นถึง 20% และลายดอกแบบละเอียดสไตล์นุ่มเงียบ ไร้เสียงรบกวนขณะขี่ ให้คุณสะดวกสบายทุกการเดินทาง ซึ่งยางราคารถเก๋งจะเริ่มต้น 2,850 บาท
ยางรถเก๋งนุ่มเงียบ
ยางรถเก๋งนุ่มเงียบ คือ ยางที่เหมาะกับผู้ใช้รถเดินทางในชีวิตประจำวัน เพราะยางรถเก๋งถูกออกแบบมาเพื่อเน้นความนุ่มเงียบ และความนุ่มสบายของการขับขี่เป็นหลัก มีคุณสมบัติหลัก คือ ช่วยลดเสียงรบกวนจากพื้นถนน ลดแรงกระแทกและการสั่นสะเทือน ช่วยให้ขับขี่ได้นุ่มนวลทุกการเดินทาง ดังนั้น ยางรถเก๋งนุ่มเงียบ จึงเหมาะกับผู้ขับขี่ที่ชอบความสะดวกสบาย และการโดยสารที่นุ่มนวลตลอดการเดินทาง
Michelin Primacy 4 ยางที่เหมาะกับรถเก๋งขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ยางสไตล์นุ่มเงียบ และสบาย ด้วยลายดอกยางดีไซน์พิเศษ และแถมเนื้อยางเสริมบล็อกดอกยาง จึงช่วยลดการสั่นสะเทือน ดูดซับแรงกระแทก ลดเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร ราคายางเริ่มต้น 4,460 บาท
Bridgestone Turanza T005A ยางที่เหมาะกับรถเก๋งขนาดกลาง กับความนุ่มสบายที่เหนือกว่า หน้ายางออกแบบให้แรงกดสม่ำเสมอ ลดแรงกระแทก ร่องดอกยางและบล็อกดอกยางที่ต่างกัน ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ และแก้มยางที่แข็งแรงแต่นุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือน เริ่มต้นที่ 6,370 บาท
Yokohama Blu Earth AE51 ยางรถพรีเมียม โครงสร้างยางออกแบบด้วยเนื้อดอกยางและไหล่ยาง 2 ชั้น ช่วยยึดเกาะถนนขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง และยึดเกาะพื้นถนนเปียกได้ดี อีกทั้งมีลายดอกยางแบบไม่สมมาตร ไม่ว่าขับใกล้หรือไกล ก็ไร้เสียงรบกวนจากพื้นถนน ราคายางรถเก๋งเริ่มต้น 3,640 บาท
Dunlop SP Sport LM705 ยางสำหรับรถเก๋งทุกประเภท มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ อย่างแก้มยางโค้งมน ช่วยดูดซับแรงกระแทก หน้ายาง ลดแรงกระแทกและอาการสั่นสะเทือนจากพื้นถนนขณะขับขี่ และดอกยางยางแบบไม่สมมาตร ที่กระจายแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มต้น 3,080 บาท
Deestone Premium Tourer RA01 ยางรถราคาประหยัดแต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตยาง ลายดอกยางแบบไม่สมมาตร ยึดเกาะถนนแห้งและเปียกได้ดี และเนื้อยางซิลิกาต้านทานการหมุน ช่วยยืดอายุการใช้งานของยางให้ยาวนานขึ้นด้วย ในราคายางรถเก๋งเริ่มต้น 1,880 บาท
ยางรถเก๋งสปอร์ต
ยางรถเก๋งสไตล์สปอร์ต คือ ยางที่มีสมรรถนะในการขับขี่สูง ถูกออกแบบมาเพื่อการควบคุมขณะขับด้วยความเร็วสูง ช่วยยึดเกาะถนนในขณะที่เข้าโค้งด้วยความเร็ว ช่วยในการออกตัว และทำให้มั่นใจทุกครั้งที่เบรกรถด้วยความเร็วสูง เรียกได้ว่า ยางรถเก๋งสไตล์สปอร์ต เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบขับขี่รถด้วยความเร็วสูง ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจและควบคุมรถได้ดีตลอดการเดินทาง
Michelin Pilot Sport 5 ยางรถเก๋งที่ตอบโจทย์ทุกสมรรถนะการขับขี่ มีเทคโนโลยีช่วยกระจายแรงยาง ควบคุมได้มั่นใจทั้งการเข้าโค้ง การเร่งความเร็ว และการเบรก ยางสามารถยึดเกาะได้ดีทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง พร้อมแก้มยางดีไซน์ Premium Touch เสริมรถให้ดูโดดเด่น และเท่อย่างมีสไตล์ ราคาเริ่มต้นที่ 10,550 บาท
Bridgestone Potenza ADRENALIN RE004 ยางสไตล์สปอร์ต ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบขับรถด้วยความเร็ว ดอกยางออกแบบพิเศษ มีร้องดอกยางเป็นรูปตัว A และบล็อกดอกยางด้านในใหญ่ขึ้น ยึดเกาะถนนดีทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง ช่วยให้ขับขี่ได้มั่นใจ เพราะพวงมาลัยตอบสนองแม่นยำ ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ราคาเริ่มต้น 6,810 บาท
Yokohama Advan Fleva V701 ยางสไตล์สปอร์ต อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมใหม่ ยางยึดเกาะถนนได้ทุกสภาพผิวได้ดีเยี่ยม ตอบโจทย์การบังคับและการควบคุมพวงมาลัยที่แม่นยำ เสียงรบกวนขณะขับขี่ต่ำ และลายดอกยางโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ซึ่งราคายางรถเก๋งเริ่มต้น 6,000 บาท
ยางรถเก๋งแบบ EV
ยางรถยนต์ไฟฟ้า หรือ ยางรถเก๋งแบบ EV คือ ยางรถยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดสูงโดยเฉพาะ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า จะมีการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่สำรองพลังงาน เพื่อแปลงพลังงานใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ทั่วไป ถึง 20% ดังนั้น ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าจำเป็นต้องเลือกใช้ยางรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่และการทำงานของรถยนต์
Michelin Pilot Sport EV ยางรถเก๋งที่พัฒนาขึ้นเพื่อการใช้งานในรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยแรงต้านทานการหมุนของล้อที่ต่ำ ทำให้มีระยะทางวิ่งเพิ่มขึ้น 60 กิโลเมตร รองรับแรงเร่งและแรงบิด รองรับการยึดเกาะในทุกพื้นถนน และลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ได้ถึง 20% ช่วยให้คุณขับขี่ได้เพลินทุกเส้นทาง เริ่มต้น 12,190 บาท
Michelin ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดที่เน้นประสบการณ์ขับขี่แบบพรีเมียม ด้วยความนุ่มเงียบสไตล์ยางมิชลิน ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้หน้ายางและร่องดอกยางมีระยะห่างสม่ำเสมอตลอดเวลา ส่งผลให้เสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของอากาศเมื่อยางสัมผัสกับผิวถนนมีความสม่ำเสมอ จึงรู้สึกได้ถึงความเงียบสบายในห้องโดยสาร และเทคโนโลยีพิเศษโดยนำโฟมโพลียูรีเทน (Polyurethane Foam) มาติดตั้งไว้ที่ท้องยางช่วยดูดซับการสั่นสะเทือนของอากาศภายในยาง จึงช่วยลดเสียงก้องภายในยาง (Cavity Noise) ลง
Yokohama ADVAN DB V553 วิวัฒนาการของยางคอมฟอร์ตระดับพรีเมียม มาพร้อมประสบการณ์ใหม่ ลดเสียงรบกวนได้มากถึง 15% ในสภาพใหม่ และลดลงอย่างมาก 22% เมื่อดอกยางสึกหรอ และยังมีเครื่องหมาย E+ อย่างเด่นชัด บ่งชี้ว่ายางล้อนี้เหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้า
เปลี่ยนยางรถเก๋งที่ไหนดี? ทำไมต้อง AUTOBACS
ยางรถยนต์เป็นปัจจัยสำคัญในการขับขี่ ที่ช่วยให้การขับขี่ของคุณไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย หากยางรถยนต์อยู่ในสภาพไม่ดี ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ผู้ขับขี่รถทุกคนจึงควรตรวจเช็กสภาพยางอยู่เสมอ หากพบว่ายางรถเก๋งมีปัญหา ควรเปลี่ยนยางกับศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน อย่าง AUTOBACS ศูนย์บริการรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน อันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น สามารถนำมาเปลี่ยนได้ทันที โดยมียางให้เลือกหลากหลาย หลายรุ่น หลายยี่ห้อ พร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ คอยบริการอย่างจริงใจ และบริการ Double Check ตรวจสอบระหว่างและหลังซ่อม ที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน ของศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร เรียกได้ว่า “ครบ-เคลียร์-จบ” ได้ที่นี่
สรุป
การเลือกยางรถเก๋งที่เหมาะสมกับการใช้งาน และสไตล์การขับขี่ มีความสำคัญต่อความปลอดภัยของคุณขณะขับขี่บนท้องถนน ช่วยให้คุณเข้าโค้ง ออกตัว เร่งความเร็ว และหยุดรถได้อย่างมั่นใจ ซึ่งตอบสนองต่อการขับขี่ให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้น ไม่ว่าจะมีสไตล์การขับขี่แบบไหน ก็สามารถเลือกประเภทของยางรถเก๋งตามสไตล์การขับขี่ที่แนะนำได้เลย